วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สรุปการใช้งานของ Present Tense..แกรมม่าง่ายๆ ที่รับรองว่าคุณจะทำได้แน่นอน - [Learning English]

สรุปการใช้งาน Present  Tense


http://thailearningenglish.blogspot.com/2014/07/present-simple-tense-learning-english.html
http://thailearningenglish.blogspot.com/2014/07/present-continuous-tense-learning.html
http://thailearningenglish.blogspot.com/2014/07/present-perfect-tense-learning-english.html
http://thailearningenglish.blogspot.com/2014/07/present-perfect-continuous-tense.html

Present Simple
ใช้กับความจริง
ใช้กับกิจวัตร ความสม่ำเสมอ
Present Continuous
ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด
ใช้กับอนาคตอันใกล้ (to be going to)
Present Perfect
ใช้กับประสบการณ์
ใช้กับผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง
ใช้กับการกระทำที่เพิ่งเสร็จสิ้น
ใช้กับการกระทำที่กินระยะเวลามาถึงปัจจุบัน
Present Perfect Continuous
ใช้กับการกระทำที่ดำเนินมาเรื่อยๆ ยังไม่สิ้นสุด
ใช้บอกสาเหตุของผลที่เกิดขึ้น โดยสาเหตุนั้นได้ดำเนินมาจากอดีตและเพิ่งเสร็จสิ้นไปไม่นานในปัจจุบัน หรืออาจจะกระทำต่อไปในอนาคต


น่าจะพอเข้าใจกันมากขึ้นนะคะ part ต่อไปก็จะเป็น Past Tense ค่ะ




Present Perfect Continuous Tense..แกรมม่าง่ายๆ ที่รับรองว่าคุณจะทำได้แน่นอน - [Learning English]


Present Perfect Continuous Tense


Subject + have / has been + V.1 ing


Subject Pronoun
Verb
here for 10 years
I
have been studied
You
have been studied
We
have been studied
They
have been studied
He
has been studied
She
has been studied
It
has been studied


Example:

I have been waiting for one hour.
ฉันรอมาชั่วโมงนึงแล้ว

We have not been playing football since rainy season.
พวกเราไม่ได้เล่นฟุตบอลมาตั้งแต่ฤดูฝน

You have been smoking since high school.
คุณสูบบุหรี่มาตั้งแต่มัธยม

Have the been doing homework?
พวกเขาทำการบ้านกันอยู่ใช่ไหม?

She has been teaching English for 4 years.
หล่อนสอนภาษาอังกฤษมาได้ 4 ปีแล้ว

It has been raining since 3 pm.
ฝนตกมาตั้งแต่บ่ายสามโมง

หลักการใช้งาน 

ใช้บอกการกระทำที่เริ่มในอดีต และเพิ่งเสร็จสิ้นไปไม่นานนี้ แต่ยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน และจะกระทำต่อเนื่องไปในอนาคตด้วย

Example: 

I am tired because I have been escaping from the flood.
ฉันเหนื่อย เพราะว่าฉันเพิ่งหนีน้ำท่วมมา

ประโยคข้างต้นแสดงให้เห็นว่า การหนีน้ำท่วมได้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนเพิ่งจบลงไม่นานในปัจจุบัน แต่ยังมีผลกระทบที่ส่งมาถึงปัจจุบันคือความเหนื่อย

You don't understand because you have not been listening.
คุณไม่เข้าใจ เพราะคุณไม่ได้ฟังมาตั้งแต่แรก


ความแตกต่างระหว่าง 

Present Continuous & Present Perfect Continuous


Present Continuous
Present Perfect Continuous
Alice is singing
Alice has been singing for 4 hours
ประโยคนี้เป็น Present Continuous สังเกตได้จาก
โครงสร้าง V. to be + V.ing
ประโยคนี้เป็น Present Perfect Continuous สังเกตได้จากโครงสร้าง has / have been + V.ing
สื่อความหมายว่า อลิซกำลังร้องเพลงอยู่ในขณะที่พูด
สื่อความหมายว่า อลิซร้องเพลงมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 4 ชั่วโมงแล้ว
Present Continuous จึงเน้นว่า ตอนนี้มีกริยาอะไร กำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน และยังไม่เสร็จสิ้น
Present Perfect Continuous จึงเน้นถึงกริยาที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน อาจจะเสร็จสิ้นตอนที่พูดถึงหรือดำเนินต่อไปก็ได้








**หมายเหตุ ความรู้ที่นำมาเผยแพร่ ไม่ได้เพื่อธุรกิจแต่อย่างใด เผยแพร่เพื่อความรู้เท่านั้น และนำมาจากการอ่านหนังสือทั้งที่เป็นหนังสือ อินเตอร์เน็ต หน้าเพจ และตามความเข้าใจภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ของเรา ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน และขอให้สนุกกับการทดลองใช้ภาษาอังกฤษกันค่ะ**

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Present Perfect Tense..แกรมม่าง่ายๆ ที่รับรองว่าคุณจะทำได้แน่นอน - [Learning English]


Present Perfect Tense


Subject + have / has + V.3

(since, for, already, just, yet)

Subject Pronoun
Verb
English
I
have studied
You
have studied
We
have studied
They
have studied
He
has studied
She
has studied
It
has studied


Example:

I have been to Australia.
ฉันเคยไปประเทศออสเตรเลีย

We have had lunch already.
พวกเรารับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว

I have never been to Hungary.
ฉันยังไม่เคยไปประเทศฮังการี

She has stayed at the hospital since March.
หล่อนอยู่ในโรงพยาบาลมาตั้งแต่เดือนมีนาคม

Where is your dog? It has not come back home yet. I think it got lost.
สุนัของคุณอยู่ที่ไหน มันยังไม่กลับบ้านเลย ฉันคิดว่ามันคงหลงทาง


หลักการใช้งาน 

1. (Experience) ใช้กับประสบการณ์ มักใช้ Present Perfect Tense เพื่อพูดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา 
ใน Tense นี้จะระบุเวลาที่เกิดการกระทำหรือไม่ระบุก็ได้ เพราะ ไม่ได้เน้นว่าประสบการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เน้นว่าเคยกระทำหรือไม่

Example: 

I have been to Japan (in 2013)
ฉันเคยไปประเทศญี่ปุ่น (ในปี 2013)

He has seen E.T.
เขาเคยเห็นมนุษย์ต่างดาว O_o

They have never eaten sushi.
พวกเขาไม่เคยกินซูชิ

2. (Change) ใช้กับผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง คือ เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากอดีต แต่ได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนเดิมแล้ว

Example:

The flood situation has been severe since the forests were destroyed.
เหตุการณ์น้ำท่วมได้รุนแรงขึ้นตั้งแต่ป่าไม้ถูกทำลาย

He has stopped smoking since the cigarette cost was more expensive.
เขาเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่ราคาของบุหรี่แพงขึ้น

3. (New Information) ใช้กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น คือ การกระทำ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ 

Example:

I have broken my glass.
ฉันทำแก้วแตก

The rain has just stopped.
ฝนเพิ่งจะหยุดตก

4. (Continuing Situation) ใช้กับเหตุการณ์ที่กินเวลามาถึงปัจจุบัน คือ การกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

Example:

I have worked here since May.
ฉันทำงานที่นี่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

He has been ill for 2 days.
เขาป่วยมาได้ 2 วันแล้ว

ข้อสังเกต 

ข้อสังเกตระหว่าง การใช้ Present Continuous Tense & Present Perfect Tense คือ จุดเริ่มการกระทำ

Present Continuous Tense = จุดเริ่มการกระทำอยู่ใน >> ปัจจุบัน และกระทำต่อเนื่องอยู่ในปัจจุบัน
Present Perfect Tense = จุดเริ่มต้นการกระทำอยู่ใน >> อดีต และ กระทำกริยานั้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

คำที่มักพบใน Present Perfect Tense

Since
For
Already
Just
yet


Since = ตั้งแต่

Example:

I have studied English since I was in grade 1.
ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ชั้น ป.1

She has lived in London since she was 15 years old.
หล่อนอาศัยอยู่ที่ลอนดอนตั้งแต่อายุ 15 ปี

For = เป็นระยะเวลา

Example:

She has studied English for  10 years.
หล่อนเรียนภาษาอังกฤษมาแล้ว 10 ปี

He has been in Hungary for 5 months.
เขาอยู่ฮังการีมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว

Already = แล้ว, เรียบร้อยแล้ว

Example:

I have already read the newspaper.
ฉันอ่านหนังสือพิมพ์แล้ว

They have already done their homework.
พวกเขาทำการบ้านแล้ว

Just = เพิ่งจะ, แค่

Example:

They have just had dinner
พวกเขาเพิ่งจะทานอาหารมื้อค่ำ

She has just arrived at my house.
หล่อนเพิ่งจะมาถึงบ้านของฉัน

Yet = ยัง

Example:

He has not taken a shower yet.
เขายังไม่ได้อาบน้ำ

We have not handed in the reports yet.
พวเรายังไม่ได้ส่งรายงาน

ตารางสรุปการใช้ Since & For

for
A period of time
ช่วงระยะเวลา
since
The beginning of time
จุดเริ่มต้นของระยะเวลา
20 minutes
6 o’clock
Three days
Monday
6 months
January
4 years
1999
2 centuries
The 2nd century
A long time
I left school
etc.






**หมายเหตุ ความรู้ที่นำมาเผยแพร่ ไม่ได้เพื่อธุรกิจแต่อย่างใด เผยแพร่เพื่อความรู้เท่านั้น และนำมาจากการอ่านหนังสือทั้งที่เป็นหนังสือ อินเตอร์เน็ต หน้าเพจ และตามความเข้าใจภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ของเรา ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน และขอให้สนุกกับการทดลองใช้ภาษาอังกฤษกันค่ะ**

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Present Continuous Tense..แกรมม่าง่ายๆ ที่รับรองว่าคุณจะทำได้แน่นอน - [Learning English]


Present Continuous Tense


Subject + is / am / are + V1.ing

Subject Pronoun
Verb
at a student
I
am looking
You
are looking
We
are looking
They
are looking
He
Is looking
She
is looking
It
is looking

Example:

I am doing my homework nowt.
ตอนนี้ฉันกำลังทำการบ้าน

He is writing the letter to his girlfriend.
เขากำลังเขียนจดหมายถึงแฟน

We are having dinner.
พวกเรากำลังรับประทานอาหารมื้อค่ำ

They are looking at that beautiful woman.
พวกเขากำลังมองไปที่ผู้หญิงสวยๆ คนนั้น

She is driving a car.
หล่อนกำลังขับรถ


หลักการใช้งาน 

1. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูด และยังกระทำกริยานั้นๆ ยังไม่เสร็จขณะที่พูด

Example: 

My daughter is watching the cartoon in the living room.
ลูกสาวของฉันกำลังดูการ์ตูนอยู่ในห้องนั่งเล่น

My mother is cooking now.
แม่ของฉันกำลังทำอาหารอยู่ในตอนนี้

2. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในช่วงนั้น แต่ไม่ได้ทำเป็นกิจวัตรประจำวันเหมือนกับ Present Simple Tense เช่น การอ่านหนังสือเล่มหนึ่งยังไม่จบ แต่อยู่ในช่วงที่ยังอ่านอยู่เรื่อยๆ หรือจะเป็นการเรียนในแต่ละปี เพื่อบอกว่ากำลังเรียนอะไรอยู่ เรียนอยู่ชั้นไหน 

Example:

I am studying in the second year.
ฉันกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2

I am reading The Lord of the Rings.
ฉันกำลังอ่านเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์อยู่

3. ใช้บอกอนาคตอันใกล้ ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในไม่ช้านี้ โดยใช้รูป to be going to 

Example:

I am going to see a movie with my friend tonight.
ฉันกำลังจะไปดูหนังกับเพื่อนๆ ในคืนนี้

She is going to cook breakfast tomorrow morning.
หล่อนจะทำอาหารเช้าในเช้าวันพรุ่งนี้

4. ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยซ้ำๆ และบ่อยเกินไป  คือสิ่งที่ไม่ได้ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่มักเกิดขึ้นบ่อยจนรู้สึกว่ามากเกินไป

Example:

Peter is always snoring.
ปีเตอร์นอนกรนเสมอเลย

Mark is constantly sleeping at work time.
มาร์คหลับในเวลางานตลอดเลย


ข้อควรระวัง

ใน Tense นี้ มีกริยาบางคำเป็นกริยา Non-continuous คือ คำกริยาที่ไม่สามารถบอกถึงเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ได้ กริยาพวกนี้จะบอกแค่สภาวะที่เป็นอยู่ ซึ่งมักจะเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งใช้กับ Simple Tense เท่านั้น ไม่สามารถใช้ใน Continuous Tense ได้

1. Mental State (กริยาบอกสภาวะของจิตใจและความคิด)

Know
Realize
Understand
Recognize
Believe
Imagine
Feel
Suppose
Doubt
Think
Mean
Remember
Forget
Want
Need
Prefer

2. Emotion State (กริยาบอกสภาวะทางอารมณ์)

Love
Like
Appreciate
Hate
Dislike
Fear
Envy
Mind
care




3. Possession State (กริยาแสดงความเป็นเจ้าของ)


Possess
Have
Own
belong


4. Sense Perception State (กริยาบอกการรับรู้)


Taste
Smell
Hear
Feel
see





5. Other Existing State (กริยาบอกสภาพความเป็นอยู่อื่นๆ)


Seem
Look
Appear
Cost
Owe
Weigh
Be
Exist
Consist of
Contain
include




ข้อสังเกต

ให้สังเกตนิดนะคะว่า ส่วนใหญ่แล้ว ประโยคที่อยู่ใน Present Continuous Tense มักจะมี Adverb เหล่านี้อยู่ในประโยค 

now / right now
at the moment
at the present
at this period

Example:

She is sleeping now.
หล่อนกำลังนอนหลับในตอนนี้

We are cooking at the moment.
พวกเรากำลังทำอาหารอยู่ในขณะนี้










**หมายเหตุ ความรู้ที่นำมาเผยแพร่ ไม่ได้เพื่อธุรกิจแต่อย่างใด เผยแพร่เพื่อความรู้เท่านั้น และนำมาจากการอ่านหนังสือทั้งที่เป็นหนังสือ อินเตอร์เน็ต หน้าเพจ และตามความเข้าใจภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ของเรา ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน และขอให้สนุกกับการทดลองใช้ภาษาอังกฤษกันค่ะ**